ส่งออกไทยแรงดีไม่มีตก พ.ย. 67 โต 8.2% ทั้งปีมั่นใจแตะ 5.2%

26 ธันวาคม 2567
ส่งออกไทยแรงดีไม่มีตก พ.ย. 67 โต 8.2% ทั้งปีมั่นใจแตะ 5.2%

สนค.เผยการส่งออกไทยเดือน พ.ย. 2567 โต 8.2% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รับแรงหนุนจากสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีเติบโต มั่นใจทั้งปี 2567 ส่งออกจะได้ 5.2% ทำนิวไฮการส่งออกครั้งที่ 2

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยเดือนพฤศจิกายนมีมูลค่า 25,608.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ที่ 8.2% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว ที่ 7.0% โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญจากการส่งออกสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ที่เติบโตในระดับสูง สอดรับกับกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของโลก

ขณะที่การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิตยังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวเชิงรุกของประเทศต่าง ๆ เพื่อรับมือกับพลวัตทางการค้ารูปแบบใหม่และความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารในตลาดโลก ยังเป็นแรงหนุนสำคัญที่ผลักดันให้การส่งออกของไทยเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ

ทำให้การส่งออกไทย 11 เดือนแรกของปี 2567 ขยายตัว 5.1% และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 4.9% อย่างไรก็ดี การส่งออกทั้งปี 2567 น่าจะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1-2% หากการส่งออกเดือนธันวาคม 2567 นี้สามารถส่งออกได้ประมาณ 24,300 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้การส่งออกไทยทั้งปีขยายตัว 5.2% ซึ่งมั่นใจว่าจะทำได้ และจะเป็นตัวเลขส่งออกที่ทำนิวไฮอีกครั้ง ซึ่งปี 2565 ส่งออกโต 5.7%

ขณะที่การนำเข้าของไทยเดือนพฤศจิกายน 2567 มีมูลค่า 25,832.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 0.9% ส่งผลให้ดุลการค้าของไทยขาดดุล 224.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนภาพรวมการนำเข้า 11 เดือนแรกของปี 2567 มีมูลค่า 282,033.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.7% ส่งผลให้ดุลการค้า 11 เดือนแรกของปี 2567 ขาดดุล 6,269.8 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าไทยจะขาดดุลโดยเป็นนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุนและวัตถุดิบ สัดส่วน 70% ซึ่งนำมาผลิตเพื่อการส่งออก

การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร

สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 5.7% (YOY) ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน โดยสินค้าเกษตรขยายตัว 4.1% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 7.7% โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ยางพาราขยายตัว 14.1% ขยายตัวต่อเนื่อง 13 เดือน (ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น มาเลเซีย สหรัฐ เกาหลีใต้ และตุรกี)

ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ขยายตัว 12.0% ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร จีน เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีใต้) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ขยายตัว 44.8% กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฮ่องกง)

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ข้าว หดตัว 20.6% กลับมาหดตัวในรอบ 6 เดือน (หดตัวในตลาดอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น แคนาดา และฝรั่งเศส แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐ จีน แอฟริกาใต้ แคเมอรูน และอังโกลา) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังหดตัว 6.3% หดตัวต่อเนื่อง 13 เดือน (หดตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย แต่ขยายตัวในตลาดมาเลเซีย สหรัฐ อินเดีย เวียดนาม และเนเธอร์แลนด์)

 

น้ำตาลทรายหดตัว 23.3% หดตัวต่อเนื่อง 11 เดือน (หดตัวในตลาดกัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย จีน และไต้หวัน แต่ขยายตัวในตลาดฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ปาปัวนิวกินี แคนาดา และศรีลังกา) ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2567 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 5.7%

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 9.5% (YOY) ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 40.8% ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐ จีน เยอรมนี ญี่ปุ่น และมาเลเซีย) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว 4.8% กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐ ญี่ปุ่น เวียดนาม เม็กซิโก และอินโดนีเซีย) ผลิตภัณฑ์ยางขยายตัว 24.8% ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย)

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ หดตัว 34.3% หดตัวต่อเนื่อง 8 เดือน (หดตัวในตลาดอินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และอาร์เจนตินา แต่ขยายตัวในตลาดอินเดีย สหรัฐ กัมพูชา ไต้หวัน และบราซิล) อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอดหดตัว 71.5% หดตัวต่อเนื่อง 9 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐ จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย และสาธารณเช็ก แต่ขยายตัวในตลาดฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสิงคโปร์) ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2567 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 5.5%

แนวโน้มการส่งออกปี 2568

แนวโน้มในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวที่ 2-3% ภายใต้บริบทความท้าทายที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ แนวโน้มการค้าโลกที่อาจชะลอตัว ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย อัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวในระดับสูง ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

อย่างไรก็ตาม ด้วยการขับเคลื่อน 10 นโยบายยุทธศาสตร์การส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การขยายฐานตลาดการค้าใหม่ ไปจนถึงการเร่งผลักดันความตกลงการค้าเสรี (FTA) ให้ครอบคลุมพันธมิตรทางการค้าในทุกภูมิภาค ประกอบกับการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขอุปสรรคทางการค้า จะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและรักษาการเติบโตของภาคการส่งออกไทยในระยะต่อไป


แหล่งที่มา : ประชาชาติธุกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.